นมแม่ดีที่สุด
เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก
เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง
เลือกอ่านตามหัวข้อที่ต้องการ
อาการคนท้อง 8 สัปดาห์เป็นอย่างไร?
สิ่งที่ควรทำเมื่อท้อง 8 สัปดาห์
สิ่งที่ควรระวังในช่วงท้อง 8 สัปดาห์
ตอนนี้ลูกมีความสูงประมาณ 1.6 ซม. ตา ปาก และจมูกจะเริ่มชัดเจนยิ่งขึ้น ปุ่มฟันน้ำนมเริ่มเป็นรูปร่าง เซลล์กระดูกก็เริ่มเป็นรูปร่างขึ้นมาแทนที่กระดูกอ่อน ข้อต่อเล็กๆ เริ่มเจริญเติบโตขึ้น อวัยวะทุกส่วนจะเริ่มเข้าที่ และลูกจะเริ่มมีลายนิ้วมือในระยะนี้
ช่วงเวลานี้และ 2-3 สัปดาห์ถัดจากนี้จะเป็นช่วงที่แย่ที่สุดของอาการคลื่นไส้ แต่ส่วนใหญ่จะหายภายในสัปดาห์ที่ 14 และจะเริ่มเพลิดเพลินกับการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม คุณแม่บางท่านอาจมีอาการแพ้ท้องอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นๆหายๆ ทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัวเท่าไรนัก หากเกิดอาการแพ้ท้อง ลองทำตามวิธีต่อไปนี้เพื่อบรรเทาอาการ เคี้ยวแครกเกอร์หรือขนมปังกรอบทีละนิดก่อนลุกจากที่นอนในตอนเช้า ทานอาหารทีละน้อยแต่บ่อยๆ เพื่อไม่ให้ท้องว่าง สิ่งสำคัญก็คือคุณแม่ต้องพยายามดื่มน้ำ แต่ถ้ารู้สึกดื่มลำบาก ให้ลองอมน้ำแข็ง ทานไอศกรีมแบบแท่งหรือจิบน้ำผลไม้แทน ลองทานขิง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผลกับคุณแม่หลายๆท่าน อาจเป็นน้ำขิง ขนมปังกรอบรสขิง ชาขิง หรือขิงผงชงในน้ำเดือด
- อ่อนเพลียและเหนื่อยง่ายเนื่องจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นทำให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยและต้องการพักผ่อนมากขึ้น
- แพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อาจพบได้ในช่วงนี้ การรับประทานอาหารอ่อน
ย่อยง่าย แบ่งทานเป็นมื้อเล็กๆจะช่วยบรรเทาอาการได้
-ปัสสาวะบ่อย เนื่องจากมดลูกขยายตัว กดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย
- มีการเปลี่ยนแปลงของเต้านม อาจรู้สึกว่า เต้านมคัดตึง
- กระเพาะอาหาร ลำไส้ทำงานช้าลง เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดอาการท้องผูก หรือท้องอืดได้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ เช่น แคลเซียมและโฟเลต เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของทารก
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องผูก
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชม.เพื่อฟื้นฟูพลังงานและลดความเครียด
- ออกกำลังกายเบา ๆ สม่ำเสมอ เช่น การเดินหรือการเล่นโยคะสำหรับคนท้อง
- ฝากครรภ์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ปลอดภัย เช่น อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ของ หมักดอง อาหารที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารเคมี สารปรุงแต่งต่างๆ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น หรือหากจำเป็นต้องใช้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและภาวะแทรกซ้อน
-การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยในขณะตั้งครรภ์ โดยหลีกเลี่ยงแรงกระแทกบริเวณท้องมากเกินไป
- สังเกตอาการผิดปกติ หากมีเลือดออกทางช่องคลอด ปวดท้องรุนแรง หรือมีไข้สูง ควรรีบพบแพทย์
อ้างอิงจาก
https://www.medparkhospital.com/lifestyles/symptoms-of-pregnancy
https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/10%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง